Skip links

บทความสุขภาพ

พัฒนาการ ปัญหา และแนวทางการพัฒนาข้อมูลสาเหตุการตาย

“ข้อมูลสาเหตุการตาย” คือข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจเรื่องมาตรฐานการพัฒนาข้อมูลสาเหตุการตายที่ตรงกัน และสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างถูกต้องตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ประเทศไทยก็จะสามารถนำงบประมาณด้านสาธารณสุขที่มีอยู่อย่างจำกัดไปใช้ในการแก้ปัญหาปัญหาสุขภาพของประชาชนได้อย่างตรงจุดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ย้อนกลับไปเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการจดทะเบียนการเกิดและตายครั้งแรกในปี 2452 โดยมีการนำร่องในเขตพระนคร ก่อนที่จะบังคับใช้ทั่วประเทศในปี 2459 จากนั้นจึงเริ่มมีการปรับปรุงข้อมูลสาเหตุการตายและปรับความเชื่อมโยงระหว่างระบบรายงานในทะเบียนราษฎรของกระทรวงมหาดไทยกับระบบรายงานของกระทรวงสาธารณสุขเรื่อยมา โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือการให้ได้มาซึ่งข้อมูลการตายที่ถูกต้องที่สุด   ต่อมาในปี 2541 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อการพัฒนาข้อมูลสาเหตุการตาย เมื่อสำนักนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารสุข (สนย.) ได้ทำการศึกษาสาเหตุการตายของประชากรไทยที่เสียชีวิตใน 1

ของเสียอันตราย (Hazardous Waste)

ของเสียอันตราย (Hazardous Waste) “ของเสียอันตราย” เป็นวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วที่มีคุณสมบัติเป็นสารไวไฟ กัดกร่อน เกิดปฏิกิริยายาได้ง่าย มีสารพิษปะปนหรือมีตัวทำละลาย เสื่อมคุณภาพตามรายชื่อที่ระบุไว้ หรือกากตะกอนที่เกิดจากการผลิต หรือเกิดจากระบบบำบัดน้ำเสีย จากกิจกรรมตามรายชื่อที่ระบุ [ประกาศกระทรวงอุตสาหรรมฉบับที่ 25 (พ.ศ.2531)] ของเสียอันตรายจึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “กากของเสียอุตสาหกรรม” กากตะกอนจากการละลายเกลือและกากตะกอนจากโรงผลิตโซดาไฟด้วยวิธีใช้เซลปรอท กากวัตถุมีพิษและกากตะกอนจากโรงงานผลิตและบรรจุยาฆ่าแมลง ฝุ่นจากระบบกำจัดตะกั่วในอากาศและกากตะกอนจากโรงงานหลอมตะกั่ว ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ที่เสื่อมหรือไม่ได้คุณภาพ น้ำยาเคมีจากถังชุบโลหะกากที่เหลือจากการชุบโลหะรวมทั้งกากตะกอนจากโรงงานชุบโลหะ ของเสียจากโรงงานผลิตวัตถุระเบิด

10 ความจริงกับสุขภาพคนไทย

หลังจากห่างหายไปนาน จึงได้แวะเวียนนำผลการศึกษา มาเล่าย่อๆ สกัดออกมา เป็น 10 เรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพของคนไทย จากการศึกษาภาระโรคและสุขภาพของประชากรไทยในปี พ.ศ.2552 ดังมีความจริงดังนี้ คนไทย กับอายุขัยที่ยืนยาวขึ้น อายุขัยเฉลี่ยนับจากแรกเกิดของคนไทย เพิ่มขึ้นแต่ต้องอยู่อย่างเจ็บป่วย พิการมากขึ้นอายุขัยเฉลี่ยของชายอยู่ที่ 70.5 ปี หญิงอยู่ที่ 77.3 ปี

เสียงสะท้อนของคนแม่ตาว: ความกลัวที่แท้

เกือบสิบปีที่แล้ว พื้นที่ 12 หมู่บ้านในตำบลพระธาตุผาแดงและตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถูกระบุว่าเป็นพื้นที่ปนเปื้อนสารแคดเมี่ยม ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการเจ็บป่วยเรื้อรังอย่างโรคไต มะเร็ง นิ่วในทางเดินปัสสาวะ และกระดูกพรุน แน่นอนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ปนเปื้อนแคดเมี่ยมทั้ง 6 หมู่บ้านทำให้หน่วยงานราชการรวมทั้งบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ใน พื้นที่ต่างให้ความสำคัญและเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ค่าชดเชยหรือความช่วยเหลือทั้งหมดอาจไม่ครอบคลุมหรือสร้างความพอใจให้กับ ทุกคนได้ก็ตาม โดยเฉพาะข้อเสนอที่ขอให้ชาวบ้านห้ามปลูกพืชที่เป็นห่วงโซ่อาหารเพราะสารแคดเมี่ยมที่ตกค้างในดินและน้ำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งคนปลูกและคนกิน ช่วง 2-3

เหล้าละลายความคิด จิตวิญญาณของคนบนพื้นที่สูง หรือ เครื่องมอมเมา

“ตัวเราจะมีค่า ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น แต่อยู่ที่ตัวเราจะให้คุณค่ากับตัวเองอย่างไร” ในพื้นที่เขตภาคเหนือ ชาวไทยเผ่าอาข่า มีประเพณีวัฒนธรรมอันสืบทอดกันมา เกี่ยวกับการใช้ เหล้า (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ )  เป็นวัตถุดิบที่มีความสำคัญและจำเป็นในการประกอบพิธีการต่างๆ อาทิ พิธีบายศรีสู่ขวัญ พิธีขอขมาผู้อาวุโสในชุมชน งานมงคลสมรส  พิธีขอขมาบรรพชนที่ล่วงลับไปแล้ว ประเพณีกินข้าวใหม่  ประเพณีโล้ชิงช้า  และอื่นๆอีกมากมาย  ที่เป็นการประกอบพิธีกรรม

“เมื่อระดับการดื่มของประเทศลดลง ผู้คนอายุยืนยาวขึ้น…

“เมื่อระดับการดื่มของประเทศลดลง ผู้คนอายุยืนยาวขึ้น: กรณีศึกษาจากรัสเซีย” นายรักษพล สนิทยา และดร.ภญ.อรทัย วลีวงค์ นักวิจัย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ เผยแพร่บทความเรื่อง “เมื่อระดับการดื่มของประเทศลดลง ผู้คนอายุยืนยาวขึ้น: กรณีศึกษาจากรัสเซีย” ในเว็บไซต์ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) หน่วยระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นโยบายแอลกอฮอล์ต่างๆ ของประเทศมีผลทำให้ปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการตายลดลง ซึ่งทำให้ประชากรรัสเซียมีอายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดเพิ่มขึ้น อ่านเพิ่มเติม ..

เสียงสะท้อนจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลคุณภาพชีวิตในเขตพื้นที่ปนเปื้อนแคดเมี่ยม

จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลการศึกษาภาระโรคจากแคดเมี่ยมในพื้นที่ อ.แม่สอด เพื่อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ปนเปื้อนสารแคดเมี่ยมใน 3 ตำบล ในระหว่างวันที่ 17-21 กุมภาพันธ์ 2557 โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลแม่สอด ในการประสานกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ของแต่ละพื้นที่ เพื่อนัดกลุ่มตัวอย่างมาสัมภาษณ์ รพ.สต 4 แห่ง ได้แก่ รพ.สต แม่ตาว
ในการเข้าชมเว็บไซต์ของ www.bodthai.net อาจมีการวางคุกกี้ไว้ในอุปกรณ์ของผู้เข้าชม และมีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ คุกกี้บางส่วนมีความจำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และบางส่วนเป็นคุกกี้ที่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์